วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ท้องฟ้าจำลอง สื่อการเรียนรู้จากดวงดาว..


     ท้องฟ้าจำลอง เปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2507 เป็นศูนย์การเรียนรู้ขนาดใหญ่ที่รวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไว้มากมาย ไม่ใช่มีแต่เรื่องราวของดวงดาวและท้องฟ้า แต่มีตั้งแต่แร่หินชนถึงสิ่งมีชีวิต โดยให้ข้อมูลตามหลักวิทยาศาสตร์ไว้อย่างครบถ้วน เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองให้ความสนใจและนิยมพาบุตรหลานมาเที่ยวหาความรู้และความเพลิดเพลิน โดยมีอาคารท้องฟ้าจำลองเป็นจุดดึงดูด โดยการจัดฉายท้องฟ้ายามค่ำคืนพร้อมแนะนำวิธีดูดาวต่างๆ พร้อมทั้งมีการหมุนเวียนฉายเรื่องราวบนท้องฟ้าทุกเดือน ทำให้ผู้ที่ตั้งใจเข้ารับชมไม่เบื่อที่จะพากันเข้ามาเที่ยวกันที่แห่งนี้อีกหลายครั้งต่อปี
     ท้องฟ้าจำลองนั้นมีอาคารทั้งหมด 6 อาคาร โดยแต่ละอาคารจะมีการจัดแสดงนิทรรศการที่แตกต่างกันไปตามแต่ละหมวดหมู่ ส่วนภายในแต่ละอาคารนั้นจะมีข้อมูลอะไรบ้างนั้น อยากให้คุณของแวะเข้าไปชมด้วยตัวท่านเอง ในข้อมูลส่วนนี้จะมีข้อมูลภายในคร่าวๆ เป็นข้อมูลประกอบการรับชมเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากอยากรับชมสถานที่อย่างครบถ้วนแล้ว แนะนำให้จูงมือบุตรหลาน เพื่อนฝูง หรือจะมาเพียงคนเดียวก็ได้ เข้ามารับชมด้วยตัวคุณเองครับ แล้วจะพบว่า มีอะไรมากมายเกินกว่าแอพลิเคชันตัวนี้จะจุไว้หมดจริงๆ....

อาคาร 1


     อาคารที่เรียกว่า "ท้องฟ้าจำลอง" นั้น จะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนนิทรรศการที่จะฉายอยู่ทุกเดือน โดยภายในโดมนั้นสามารถจุผู้ชมได้มากถึง 300-400 คนต่อ 1 รอบการแสดง รายการฉายมีความเกี่ยวข้องกับดวงดาว เช่น จุดกำเนิดดาวเคราะห์, แสงจากแอนโดรเมดา


     ระยะเวลาในการฉายแต่ละรอบประมาณ 1 ชั่วโมง เปิดสองรอบการแสดงต่อวัน โดยวันอังคาร - ศุกร์ เปิดแสดงเวลา 11:00น. - 12:00น. และ 14:00น. - 15:00น. ในวันเสาร์ - อาทิตย์ เปิดแสดงเวลา 12:00น. - 13:00น. และ 14:00น. - 15:00น. ปิดแสดงวันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

     ในแต่ละเดือนจะมีการฉายเรื่องราวที่แตกต่างกันไป โดยแต่ละรอบการฉายจะเริ่มเกริ่นนำด้วยวิธีดูดาวก่อน แล้วจึงเข้าสู่เรื่องราวประจำเดือนนั้นๆ

     ในส่วนรอบๆโดมท้องฟ้าจำลองนั้นมีการจัดนิทรรศการ "ดวงดาวกับชีวิต" โยมีการจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มดาวต่างๆ , สิ่งปลูกสร้างมหัศจรรย์บนโลก , และสิ่งต่างๆในจักรวาลของเรา

อาคาร 2


     ชั้นที่ 1
          เรียกได้ว่าเป็นอาคารหลักและอาคารแรกๆที่ผู้ที่เข้ามาชมท้องฟ้าจำลองแห่งนี้จะเดินเข้าไปชม เพราะเนื่องจากเป็นอาคารที่เป็นจุดจำหน่ายบัตรเข้าชม และเป็นอาคารที่รวบรวมข้อมูลความรู้ไว้มากที่สุด และที่สำคัญ สื่อความรู้ด้านในอาคารยังเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆอีกด้วย


          สื่อการเรียนรู้ "ลูกกลมกลิ้ง" เป็นสื่อการเรียนรู้แรกที่เราเห็นได้เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่อาคาร แล้วยังเป็นจุดที่เด็กๆให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยวิธีการเล่นนั้นคือ ผู้เล่นต้องพยายามพาลูกกลมไปสู่จุดหมายปลายทางให้ได้ตามที่กลไกลแต่ละขั้นได้กำหนดไว้

Gimbal

          ถัดมาทางด้านซ้ายของอาคาร จะเต็มไปด้วยสื่อการเรียนรู้มากมาย เช่น Gimbal ซึ่งเป็นเครื่องเช่นชิ้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยมีการต่อแถวรอเล่นกันเลยทีเดียว อีกสื่อที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Tornado ซึ่งจะจำลองการหมุนของพายุทอนาโด

Tornado

          โดยรอบๆบริเวณยังเต็มไปด้วยสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมายที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียง, แสง ,แรง, ฯลฯ

ซุ้มทางเข้า

          ลึกเข้าไปในส่วนของชั้นที่ 1 จะพบทางเชื่อมที่เขียนว่า Save Our Sea โดยภายในประกอบไปด้วยส่วนจัดแสดงสองส่วนคือ "Mineral land" และ "จตุรัสเทคโนโลยี"

ภายในห้อง Mineral Land

          "Mineral land" นั้นประกอบไปด้วยการจัดแสดงหินแร่นานาชนิดบนพื้นโลกที่หายากและที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย หากใครต้องการทราบว่าบนพื้นโลกเรานั้นมีแร่อยู่มากมายเพียงใด ลองแวะมาชมที่จดนี้ได้ครับ

หินที่จัดแสดง

          ส่วนจัดแสดงข้างๆกันนั้นคือ "จตุรัสเทคโนโลยี" ซึ่งรวบรวมเทคโนโลยีมากมายที่เป็นต้นกำเนิดเทคโนโลยีในปัจจุบัน พร้อมเครื่องเล่นเสริมเพื่อให้เข้าใจผลลัพธ์และการทำงานของเทคโนโลยีนั้นๆ

     ชั้นที่ 2
          ที่ชั้น 2 นั้นจะแตกต่างจากชั้นแรกในส่วนของพื้นที่ที่มีเพียงครึ่งเดียวของชั้นที่ 1 โดยครึ่งหนึ่งเป็นที่โล่งว่างปล่าวหรือชั้นลอย โดยมีทางเชื่อมจากสะพานกลางไปสู่พื้นที่จัดแสดงเท่านั้น


          สิ่งแรกที่เห็นเมื่อขึ้นบันไดกลางจากชั้นแรกขึ้นมาจะพบ "ห้องมหกรรม 3D" ซึ่งจัดแสดงภาพยนต์ 3 มิติเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆของการผลิตหนัง 3มิติ และเรื่องราวของดวงดาวใน(รูปแบบของ 3มิติ

          เมื่อเดินข้ามสะพานทางเชื่อม จะพบกับส่วนของสื่อการเรียนรู้ "โลกแม่เหล็ก" ซึ่งเป็นสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับแม่เหล็กและการนำไปใช้ในด้านพลังงาน ถัดมาทางด้านขวาใกล้ๆกันโดยเดินผ่านทางเชื่อมแคบๆเข้ามาจะพบสื่อการเรียนรู้ "คณิตศาสตร์แสนสนุก" ซึงเป็นสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ต่างๆที่น่าสนใจนอกเหนือจากที่ได้เรียนในบทเรียน

          ข้างๆกันจะพบทางเชื่อมที่พาเข้าไปสู่ "ชีวิตกับกาลเวลา" จะพบกับสื่อการเรียนรู้มากมายต่างๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีเกี่ยวกับนาฬิกาและการนำไปประยุกต์ใช้กับสื่อต่างๆมากมาย เช่น เทคโนโลยีการกีฬา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในหลากหลายรูปแบบ

     ชั้นที่ 3
          มีลักษณะพื้นที่คล้ายชั้นที่ 2 โดยใช้พื้นที่เพียงครึ่งเดียวเหมือนชั้นที่ 2 และมีทางเชื่อมโดยตรงสู่บันไดกลาง
ออกจากทางเชื่อมจากบันไดกลางออกมาทางด้านซ้ายมือ จะพบกับห้องปฏิบัติการ "เทคโนโลยีหุ่นยนต์" ซึ่งภายภายในห้องประกอบไปด้วยตัวอย่างหุ่นยนต์ และเปิดให้ผู้เข้าชมได้ลองประกอบหุ่นยนต์เล่นได้ โดยมีวิทยากรคอยให้ความรู้เกี่ยวกับหุ่นยนต์และขั้นตอนการทำงานต่างๆ

ห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์

          ห้องข้างๆกันเป็นห้อง "ท่องแดนปิโตเลียม" ซึ่งมีขนาดห้องที่ใหญ่พอสมควร โดยมีหุ่นจำลองฐานขดเจาะประดับไว้หน้าทางเข้า ห้องนี้มีอยู่ 2ประตู ทางเข้าและทางออก ดังนั้นอย่าเข้าอย่าออกผิดประตูนะครับ

มีแบบจำลองฐานขุดเจาะด้านหน้าทางเข้า - ออก

          เมื่อก้าวเข้าไปภายใน สิ่งแรกที่ใช้ปูพื้นความรู้ก่อนรับชมส่วนจัดแสดงอื่นๆเกี่ยวกับปิโตเลียมคือ ความหมายของคำว่า "ปิโตเลียม" โดยรอบๆจะมีสิ่งต่างๆประกอบอื่นๆอยู่เต็มไปหมด


          เมื่อเดินลึกเข้าไปจะพบกับสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับปิโตเลียมทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงก๊าซธรรมชาติและเชื้อเพลิงต่างๆ 


          เมื่อเดินโค้งออกมาส่างออก จะพบกับผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่ได้จากปิโตเลียมมากมาย

มุมโค้งกลับสู่ทางออก

สื่อแสดงพลังงานต่ออาคารบ้านเรือน

          เมื่อออกมานอกห้อง ตรงเนินลาดทางขึ้นสู่ห้องจัดแสดงอีกสองห้อง ซึ่งเป็นส่วนการจัดแสดงนิทรรศการ "The Blue Planet" และ "ความลับของสิ่งมีชีวิต" ซึ่งทั้งสองจุดจัดแสดงนี้ เปรียบเสมือนเราขึ้นไปสู่ชั้นที่ 4 เลยทีเดียว

ทางลาดขึ้นสู่ห้องนิทรรศการ

          ภายในห้องจัดนิทรรศการ "The Blue Planet" นั้น มีจุดที่น่าสนใจและมีผู้ชมรอต่อแถวเข้าใช้คือ เครื่องจำลองแผ่นดินไหว ที่จำลองการสั่นขิงพื้นโลกเมื่อเกิดแผ่นดินไหวในหลากหลายระดับ ที่ถึงแม้จะมีการห้ามส่งเสียงดัง แต่ในบริเวณนี้ก็ส่งเสียงได้ก้องกังวานไปทั่วทั้งห้องแล้ว

เครื่องจำลองแผ่นดินไหว ส่งเสียงดังสนั่นสมจริง

          ในรอบๆห้องนี้มีการจัดแสดงสื่อต่างๆเกี่ยวกับโลกของเรา ทั้งสิ่งมีชีวิตในทะเลและสภาพอากาศ จึงเป็นอีกจุดหนึ่งซึ่งหากใครต้องการทราบจุดกำเนิดและการเปลี่ยนแปลงของโลก ต้องไม่พลาดที่จะแวะเข้ามาชมจุดแสดงนิทรรศการนี้ครับ 

จุดแสดงเกี่ยวกับสภาพอากาศ

จุดแสดงสื่อดวงดาว

จุดแสดงเกี่ยวกับผืืนดินของโลก

          อีกห้องจัดแสดงหนึ่งตรงข้ามกันนั้น จะพบกับห้องจัดแสดง "ความลับของสิ่งมีชีวิต" ซึ่งภายในเป็นลักษณะห้องทรงกลม แม้ดูภายนอกจะเห็นเป็นห้องสี่เหลี่ยมๆก็ตาม จากลักษณะห้องแล้ว คงมีความต้องการให้เดินชมโดยเดินวนไปรอบห้องนั่นเอง 

ห้องฝั่งตรงข้าม

           ภายในประกอบไปด้วยสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตของโลกตั้งแต่ยุคแรก รวมทั้งการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตต่างๆ และเทคโนโลยี DNA 

จัดแสดงแบบจำลองมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์

สื่อการเรียนรู้กลางห้อง

อาคาร 3
                มีชื่ออาคารว่า "Aquatic life" มีลักษณะเป็นอาคารแนวยาวชั้นเดียว เข้าอีกทาง ออกอีกทาง เป็นอาคารจัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์น้ำและปลาทะเลต่างๆ 

ทางเข้าอาคาร 3

          เมื่อเข้าไปจะพบกับน้ำตกจำลองที่สวยงาม ตลอดสองข้างทางเรียงรายไปด้วยตู้ปลานานาชนิด ที่ได้ผ่านการจำลองสภาพภูมิธรรมชาติตามที่ปลาแต่ละชนิดจะสามารถอาศัยอยู่ได้ ตู้ปลาแต่ละตู้จะมีคำอธิบายประกอบเพื่อความเข้าใจของผู้เข้าชม เพราะหากดูด้วยตาเปล่าโดยไม่อ่านข้อมูลประกอบแล้ว ตู้ปลาเหล่านี้จะไม่ต่างจากตู้ปลาสวยงามในสายตาผู้เข้าชมเลย เพราะมองผ่านๆแล้ว คงคิดว่าตู้ไหนๆก็เหมือนกันหมด ซึ่งจริงๆแล้ว แต่ละตู้ สภาพภูมิธรรมชาติ ปลาแต่ละชนิดมีการดำรงอยู่ที่แตกต่างกัน 

น้ำตกประดับบริเวณหน้าทางเข้าภายใน

มีจุดแสดงผังภายในอาคารคร่าวๆ

แสดงสัตว์น้ำหลากหลายพันธุ์

อาคาร 4
                ตัวอาคารนั้นอยู่อีกฟากหนึ่งของซอยข้างๆท้องฟ้าจำลอง โดยตัวอาคารในส่วนของการจัดแสดงนั้น มีแค่ชั้น 2, 5, 6, 7 และ 8 ซึ่งเป็นการจัดแสดงสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับ แมลง, ไดโนดเสาร์, ภัยธรรมชาติ ,ฯลฯ 


     ชั้น 2

           เป็นการจัดแสดงเกี่ยวกับไดโนเสาร์ มีการจัดแสดงตั้งแต่การกำเนิดโลก ไปจนถึงการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต โดยอาศัยภาพและคำอธิบายประกอบ 

แบบจำลองไทแรนโนซอรัส

          เป็นส่วนการจัดแสดงที่เด็กๆหลายๆคนให้ความสนใจ และเด็กๆอีกหลายๆคนก็กลัวจนร้องไห้น้ำตาไหลกันเลย เพราะถึงแม้จะเป็นแค่แบบจำลองแล้ว แต่ในสายตาเด็กคงกลัวที่จะโดนจับกินเป็นแน่ 

มีการจัดสภาพภูมิประเทศคล้ายยุคดึกดำบรรพ์

          เนื่องจากชั้นนี้มีการแบ่งเป็นหลายๆ โซน เพื่อค่อยๆอธิบายเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับโลกดึกดำบรรพ์ให้เป็นขั้นตอนและเข้าใจง่ายนั่นเอง ทั้งยังปรับสภาพพื้นที่บางส่วนให้คล้ายเนินเขาหรือซากหินอีกด้วย ผู้ที่ต้องการเข้าชมโปรดระวังสะดุดพื้นด้วยนะครับ 

แบบจำลองกระดูกไดโนเสาร์

     ชั้น 5

                "โลกของแมลง" รวบรวมข้อมูลของแมลง ทั้งการวิวัฒนาการของแมลง ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังจำลองสภาพพื้นที่อยู่อาศัยของแมลงมากมาย ทั้งยังมีสื่อต่างๆอีกมากมาย เช่น การสื่อสารของแมลง , ศัตรูโดนธรรมชาติของแมลง , การกำจัดแมลง และประโยชน์ของแมลง

จุดแสดงแบบจำลองการอยู่อาศัยของแมลง 

ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบจำลองของแมลง แต่ข้อมูลประกอบที่ได้ก็อธิบายได้อย่างเห็นภาพ ทำให้ผู้เข้าชมเข้าใจถึงแมลงนั้นๆได้อย่างดี 

จุดแสดงวิวัฒนาการของแมลง

     ชั้น 6


           "นิทรรศการสำหรับเด็กปฐมวัย" ภายในซึ่งดูเหมือนลานเด็กเล่นที่รวบรวมของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กๆไว้มากมาย เหมาะสำหรับพาบุตรหลานของท่านมาพักผ่อนเที่ยวเล่นได้ เป็นอีกจุดที่เด็กๆให้ความสนใจ ร้องงอแงไม่ยอมกลับบ้านกันเลยทีเดียว

มีของเล่นเสริมทักษะการเรียนรู้มากมาย 

     ชั้น 7

           "วิทยาศาสตร์เชิงปฏิบัติการ" รวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากมายเช่น นิวเครียส , ประสาทสัมผัสต่างๆในร่างกายของสิ่งมีชีวิต 

ส่วนการแสดงประสาทสัมผัสของสิ่งมีชีวิตต่างๆ

     ชั้น 8


           เป็นส่วนการจัดแสดงสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพบนโลก พร้อมทั้งมีแบบจำลองของสัตว์ชนิดต่างๆมากมายพร้อมคำอธิบายที่ประกอบไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของสิ่งมีชีวิตต่างๆและแหล่งที่สิ่งมีชีวิตต่างๆจะสามารถดำรงอยู่ได้


          ชั้นหลังๆของอาคาร 4 นั้นได้เก็บภาพมาน้อย เนื่องจากใกล้หมดเวลาทำการ และสองชั้นหลังต้องขอให้แม่บ้านช่วยเปิดห้องเข้าไปชมเนื่องจากปิดก่อนเวลาเล็กน้อยเพราะคิดว่าผู้เข้าชมเริ่มทะยอยกลับแล้ว จึงนำข้อมูลและภาพมาได้เพียงนิดเดียว

หมายเหตุ : หากข้อมูลผิดพลาดหรือคลาดเลื่อนประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ