ท้องฟ้าจำลองนั้นมีอาคารทั้งหมด 6 อาคาร โดยแต่ละอาคารจะมีการจัดแสดงนิทรรศการที่แตกต่างกันไปตามแต่ละหมวดหมู่ ส่วนภายในแต่ละอาคารนั้นจะมีข้อมูลอะไรบ้างนั้น อยากให้คุณของแวะเข้าไปชมด้วยตัวท่านเอง ในข้อมูลส่วนนี้จะมีข้อมูลภายในคร่าวๆ เป็นข้อมูลประกอบการรับชมเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หากอยากรับชมสถานที่อย่างครบถ้วนแล้ว แนะนำให้จูงมือบุตรหลาน เพื่อนฝูง หรือจะมาเพียงคนเดียวก็ได้ เข้ามารับชมด้วยตัวคุณเองครับ แล้วจะพบว่า มีอะไรมากมายเกินกว่าแอพลิเคชันตัวนี้จะจุไว้หมดจริงๆ....
อาคาร 1
อาคารที่เรียกว่า "ท้องฟ้าจำลอง" นั้น จะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนนิทรรศการที่จะฉายอยู่ทุกเดือน โดยภายในโดมนั้นสามารถจุผู้ชมได้มากถึง 300-400 คนต่อ 1 รอบการแสดง รายการฉายมีความเกี่ยวข้องกับดวงดาว เช่น จุดกำเนิดดาวเคราะห์, แสงจากแอนโดรเมดา
ระยะเวลาในการฉายแต่ละรอบประมาณ 1 ชั่วโมง เปิดสองรอบการแสดงต่อวัน โดยวันอังคาร - ศุกร์ เปิดแสดงเวลา 11:00น. - 12:00น. และ 14:00น. - 15:00น. ในวันเสาร์ - อาทิตย์ เปิดแสดงเวลา 12:00น. - 13:00น. และ 14:00น. - 15:00น. ปิดแสดงวันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ในแต่ละเดือนจะมีการฉายเรื่องราวที่แตกต่างกันไป โดยแต่ละรอบการฉายจะเริ่มเกริ่นนำด้วยวิธีดูดาวก่อน แล้วจึงเข้าสู่เรื่องราวประจำเดือนนั้นๆ
ในส่วนรอบๆโดมท้องฟ้าจำลองนั้นมีการจัดนิทรรศการ "ดวงดาวกับชีวิต" โยมีการจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มดาวต่างๆ , สิ่งปลูกสร้างมหัศจรรย์บนโลก , และสิ่งต่างๆในจักรวาลของเรา
อาคาร 2
ชั้นที่ 1
เรียกได้ว่าเป็นอาคารหลักและอาคารแรกๆที่ผู้ที่เข้ามาชมท้องฟ้าจำลองแห่งนี้จะเดินเข้าไปชม เพราะเนื่องจากเป็นอาคารที่เป็นจุดจำหน่ายบัตรเข้าชม และเป็นอาคารที่รวบรวมข้อมูลความรู้ไว้มากที่สุด และที่สำคัญ สื่อความรู้ด้านในอาคารยังเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆอีกด้วย
สื่อการเรียนรู้ "ลูกกลมกลิ้ง" เป็นสื่อการเรียนรู้แรกที่เราเห็นได้เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่อาคาร แล้วยังเป็นจุดที่เด็กๆให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยวิธีการเล่นนั้นคือ ผู้เล่นต้องพยายามพาลูกกลมไปสู่จุดหมายปลายทางให้ได้ตามที่กลไกลแต่ละขั้นได้กำหนดไว้
Gimbal
ถัดมาทางด้านซ้ายของอาคาร จะเต็มไปด้วยสื่อการเรียนรู้มากมาย เช่น Gimbal ซึ่งเป็นเครื่องเช่นชิ้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยมีการต่อแถวรอเล่นกันเลยทีเดียว อีกสื่อที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ Tornado ซึ่งจะจำลองการหมุนของพายุทอนาโด
Tornado
โดยรอบๆบริเวณยังเต็มไปด้วยสื่อการเรียนรู้ที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมายที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียง, แสง ,แรง, ฯลฯ
ซุ้มทางเข้า
ลึกเข้าไปในส่วนของชั้นที่ 1 จะพบทางเชื่อมที่เขียนว่า Save Our Sea โดยภายในประกอบไปด้วยส่วนจัดแสดงสองส่วนคือ "Mineral land" และ "จตุรัสเทคโนโลยี"
ภายในห้อง Mineral Land
"Mineral land" นั้นประกอบไปด้วยการจัดแสดงหินแร่นานาชนิดบนพื้นโลกที่หายากและที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย หากใครต้องการทราบว่าบนพื้นโลกเรานั้นมีแร่อยู่มากมายเพียงใด ลองแวะมาชมที่จดนี้ได้ครับ
หินที่จัดแสดง
ส่วนจัดแสดงข้างๆกันนั้นคือ "จตุรัสเทคโนโลยี" ซึ่งรวบรวมเทคโนโลยีมากมายที่เป็นต้นกำเนิดเทคโนโลยีในปัจจุบัน พร้อมเครื่องเล่นเสริมเพื่อให้เข้าใจผลลัพธ์และการทำงานของเทคโนโลยีนั้นๆ
ชั้นที่ 2
ที่ชั้น 2 นั้นจะแตกต่างจากชั้นแรกในส่วนของพื้นที่ที่มีเพียงครึ่งเดียวของชั้นที่ 1 โดยครึ่งหนึ่งเป็นที่โล่งว่างปล่าวหรือชั้นลอย โดยมีทางเชื่อมจากสะพานกลางไปสู่พื้นที่จัดแสดงเท่านั้น
สิ่งแรกที่เห็นเมื่อขึ้นบันไดกลางจากชั้นแรกขึ้นมาจะพบ "ห้องมหกรรม 3D" ซึ่งจัดแสดงภาพยนต์ 3 มิติเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆของการผลิตหนัง 3มิติ และเรื่องราวของดวงดาวใน(รูปแบบของ 3มิติ
เมื่อเดินข้ามสะพานทางเชื่อม จะพบกับส่วนของสื่อการเรียนรู้ "โลกแม่เหล็ก" ซึ่งเป็นสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับแม่เหล็กและการนำไปใช้ในด้านพลังงาน ถัดมาทางด้านขวาใกล้ๆกันโดยเดินผ่านทางเชื่อมแคบๆเข้ามาจะพบสื่อการเรียนรู้ "คณิตศาสตร์แสนสนุก" ซึงเป็นสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ต่างๆที่น่าสนใจนอกเหนือจากที่ได้เรียนในบทเรียน
ข้างๆกันจะพบทางเชื่อมที่พาเข้าไปสู่ "ชีวิตกับกาลเวลา" จะพบกับสื่อการเรียนรู้มากมายต่างๆเกี่ยวกับเทคโนโลยีเกี่ยวกับนาฬิกาและการนำไปประยุกต์ใช้กับสื่อต่างๆมากมาย เช่น เทคโนโลยีการกีฬา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในหลากหลายรูปแบบ
ชั้นที่ 3
มีลักษณะพื้นที่คล้ายชั้นที่ 2 โดยใช้พื้นที่เพียงครึ่งเดียวเหมือนชั้นที่ 2 และมีทางเชื่อมโดยตรงสู่บันไดกลาง
ออกจากทางเชื่อมจากบันไดกลางออกมาทางด้านซ้ายมือ จะพบกับห้องปฏิบัติการ "เทคโนโลยีหุ่นยนต์" ซึ่งภายภายในห้องประกอบไปด้วยตัวอย่างหุ่นยนต์ และเปิดให้ผู้เข้าชมได้ลองประกอบหุ่นยนต์เล่นได้ โดยมีวิทยากรคอยให้ความรู้เกี่ยวกับหุ่นยนต์และขั้นตอนการทำงานต่างๆ
ห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์
ห้องข้างๆกันเป็นห้อง "ท่องแดนปิโตเลียม" ซึ่งมีขนาดห้องที่ใหญ่พอสมควร โดยมีหุ่นจำลองฐานขดเจาะประดับไว้หน้าทางเข้า ห้องนี้มีอยู่ 2ประตู ทางเข้าและทางออก ดังนั้นอย่าเข้าอย่าออกผิดประตูนะครับ
มีแบบจำลองฐานขุดเจาะด้านหน้าทางเข้า - ออก
เมื่อก้าวเข้าไปภายใน สิ่งแรกที่ใช้ปูพื้นความรู้ก่อนรับชมส่วนจัดแสดงอื่นๆเกี่ยวกับปิโตเลียมคือ ความหมายของคำว่า "ปิโตเลียม" โดยรอบๆจะมีสิ่งต่างๆประกอบอื่นๆอยู่เต็มไปหมด
เมื่อเดินลึกเข้าไปจะพบกับสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับปิโตเลียมทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงก๊าซธรรมชาติและเชื้อเพลิงต่างๆ
เมื่อเดินโค้งออกมาส่างออก จะพบกับผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่ได้จากปิโตเลียมมากมาย
มุมโค้งกลับสู่ทางออก
สื่อแสดงพลังงานต่ออาคารบ้านเรือน
เมื่อออกมานอกห้อง ตรงเนินลาดทางขึ้นสู่ห้องจัดแสดงอีกสองห้อง ซึ่งเป็นส่วนการจัดแสดงนิทรรศการ "The Blue Planet" และ "ความลับของสิ่งมีชีวิต" ซึ่งทั้งสองจุดจัดแสดงนี้ เปรียบเสมือนเราขึ้นไปสู่ชั้นที่ 4 เลยทีเดียว
ทางลาดขึ้นสู่ห้องนิทรรศการ
ภายในห้องจัดนิทรรศการ "The Blue Planet" นั้น มีจุดที่น่าสนใจและมีผู้ชมรอต่อแถวเข้าใช้คือ เครื่องจำลองแผ่นดินไหว ที่จำลองการสั่นขิงพื้นโลกเมื่อเกิดแผ่นดินไหวในหลากหลายระดับ ที่ถึงแม้จะมีการห้ามส่งเสียงดัง แต่ในบริเวณนี้ก็ส่งเสียงได้ก้องกังวานไปทั่วทั้งห้องแล้ว
เครื่องจำลองแผ่นดินไหว ส่งเสียงดังสนั่นสมจริง
ในรอบๆห้องนี้มีการจัดแสดงสื่อต่างๆเกี่ยวกับโลกของเรา ทั้งสิ่งมีชีวิตในทะเลและสภาพอากาศ จึงเป็นอีกจุดหนึ่งซึ่งหากใครต้องการทราบจุดกำเนิดและการเปลี่ยนแปลงของโลก ต้องไม่พลาดที่จะแวะเข้ามาชมจุดแสดงนิทรรศการนี้ครับ
จุดแสดงเกี่ยวกับสภาพอากาศ
จุดแสดงสื่อดวงดาว
จุดแสดงเกี่ยวกับผืืนดินของโลก
อีกห้องจัดแสดงหนึ่งตรงข้ามกันนั้น จะพบกับห้องจัดแสดง "ความลับของสิ่งมีชีวิต" ซึ่งภายในเป็นลักษณะห้องทรงกลม แม้ดูภายนอกจะเห็นเป็นห้องสี่เหลี่ยมๆก็ตาม จากลักษณะห้องแล้ว คงมีความต้องการให้เดินชมโดยเดินวนไปรอบห้องนั่นเอง
ห้องฝั่งตรงข้าม
ภายในประกอบไปด้วยสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตของโลกตั้งแต่ยุคแรก รวมทั้งการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตต่างๆ และเทคโนโลยี DNA
จัดแสดงแบบจำลองมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์
สื่อการเรียนรู้กลางห้อง
อาคาร 3
มีชื่ออาคารว่า "Aquatic life" มีลักษณะเป็นอาคารแนวยาวชั้นเดียว เข้าอีกทาง ออกอีกทาง เป็นอาคารจัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์น้ำและปลาทะเลต่างๆ
ทางเข้าอาคาร 3
เมื่อเข้าไปจะพบกับน้ำตกจำลองที่สวยงาม ตลอดสองข้างทางเรียงรายไปด้วยตู้ปลานานาชนิด ที่ได้ผ่านการจำลองสภาพภูมิธรรมชาติตามที่ปลาแต่ละชนิดจะสามารถอาศัยอยู่ได้ ตู้ปลาแต่ละตู้จะมีคำอธิบายประกอบเพื่อความเข้าใจของผู้เข้าชม เพราะหากดูด้วยตาเปล่าโดยไม่อ่านข้อมูลประกอบแล้ว ตู้ปลาเหล่านี้จะไม่ต่างจากตู้ปลาสวยงามในสายตาผู้เข้าชมเลย เพราะมองผ่านๆแล้ว คงคิดว่าตู้ไหนๆก็เหมือนกันหมด ซึ่งจริงๆแล้ว แต่ละตู้ สภาพภูมิธรรมชาติ ปลาแต่ละชนิดมีการดำรงอยู่ที่แตกต่างกัน
น้ำตกประดับบริเวณหน้าทางเข้าภายใน
มีจุดแสดงผังภายในอาคารคร่าวๆ
แสดงสัตว์น้ำหลากหลายพันธุ์
อาคาร 4
ตัวอาคารนั้นอยู่อีกฟากหนึ่งของซอยข้างๆท้องฟ้าจำลอง โดยตัวอาคารในส่วนของการจัดแสดงนั้น มีแค่ชั้น 2, 5, 6, 7 และ 8 ซึ่งเป็นการจัดแสดงสื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับ แมลง, ไดโนดเสาร์, ภัยธรรมชาติ ,ฯลฯ
ชั้น 2
เป็นการจัดแสดงเกี่ยวกับไดโนเสาร์ มีการจัดแสดงตั้งแต่การกำเนิดโลก ไปจนถึงการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต โดยอาศัยภาพและคำอธิบายประกอบ
แบบจำลองไทแรนโนซอรัส
เป็นส่วนการจัดแสดงที่เด็กๆหลายๆคนให้ความสนใจ และเด็กๆอีกหลายๆคนก็กลัวจนร้องไห้น้ำตาไหลกันเลย เพราะถึงแม้จะเป็นแค่แบบจำลองแล้ว แต่ในสายตาเด็กคงกลัวที่จะโดนจับกินเป็นแน่
มีการจัดสภาพภูมิประเทศคล้ายยุคดึกดำบรรพ์
เนื่องจากชั้นนี้มีการแบ่งเป็นหลายๆ โซน เพื่อค่อยๆอธิบายเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับโลกดึกดำบรรพ์ให้เป็นขั้นตอนและเข้าใจง่ายนั่นเอง ทั้งยังปรับสภาพพื้นที่บางส่วนให้คล้ายเนินเขาหรือซากหินอีกด้วย ผู้ที่ต้องการเข้าชมโปรดระวังสะดุดพื้นด้วยนะครับ
แบบจำลองกระดูกไดโนเสาร์
ชั้น 5
"โลกของแมลง" รวบรวมข้อมูลของแมลง ทั้งการวิวัฒนาการของแมลง ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังจำลองสภาพพื้นที่อยู่อาศัยของแมลงมากมาย ทั้งยังมีสื่อต่างๆอีกมากมาย เช่น การสื่อสารของแมลง , ศัตรูโดนธรรมชาติของแมลง , การกำจัดแมลง และประโยชน์ของแมลง
จุดแสดงแบบจำลองการอยู่อาศัยของแมลง
ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบจำลองของแมลง แต่ข้อมูลประกอบที่ได้ก็อธิบายได้อย่างเห็นภาพ ทำให้ผู้เข้าชมเข้าใจถึงแมลงนั้นๆได้อย่างดี
จุดแสดงวิวัฒนาการของแมลง
ชั้น 6
"นิทรรศการสำหรับเด็กปฐมวัย" ภายในซึ่งดูเหมือนลานเด็กเล่นที่รวบรวมของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กๆไว้มากมาย เหมาะสำหรับพาบุตรหลานของท่านมาพักผ่อนเที่ยวเล่นได้ เป็นอีกจุดที่เด็กๆให้ความสนใจ ร้องงอแงไม่ยอมกลับบ้านกันเลยทีเดียว
มีของเล่นเสริมทักษะการเรียนรู้มากมาย
ชั้น 7
"วิทยาศาสตร์เชิงปฏิบัติการ" รวบรวมข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากมายเช่น นิวเครียส , ประสาทสัมผัสต่างๆในร่างกายของสิ่งมีชีวิต
ส่วนการแสดงประสาทสัมผัสของสิ่งมีชีวิตต่างๆ
ชั้น 8
เป็นส่วนการจัดแสดงสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพบนโลก พร้อมทั้งมีแบบจำลองของสัตว์ชนิดต่างๆมากมายพร้อมคำอธิบายที่ประกอบไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของสิ่งมีชีวิตต่างๆและแหล่งที่สิ่งมีชีวิตต่างๆจะสามารถดำรงอยู่ได้
ชั้นหลังๆของอาคาร 4 นั้นได้เก็บภาพมาน้อย เนื่องจากใกล้หมดเวลาทำการ และสองชั้นหลังต้องขอให้แม่บ้านช่วยเปิดห้องเข้าไปชมเนื่องจากปิดก่อนเวลาเล็กน้อยเพราะคิดว่าผู้เข้าชมเริ่มทะยอยกลับแล้ว จึงนำข้อมูลและภาพมาได้เพียงนิดเดียว
หมายเหตุ : หากข้อมูลผิดพลาดหรือคลาดเลื่อนประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ